ในยุคที่บล็อกเชนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของอินเทอร์เน็ต นักพัฒนาทั่วโลกได้สร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาหลายอย่าง เช่น ระบบล่มบ่อย ค่า gas แพง และความปลอดภัยที่ยังไม่ดีพอ ทำให้การใช้งานบล็อกเชนยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่
ถ้าบล็อกเชนจะกลายเป็นเทคโนโลยีหลักในยุค Web3 ได้ มันต้องพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับระบบคลาวด์ คือ ต้องเชื่อถือได้ ขยายขนาดได้ มีต้นทุนที่คุ้มค่า และสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นี่เลยเป็นเหตุผลที่ Aptos Blockchain ถูกสร้างขึ้นมา ด้วยแนวคิดหลัก 4 อย่าง : ความเร็ว ความปลอดภัย ความเสถียร และการพัฒนาได้ง่าย เพื่อแก้ปัญหาเดิมๆ และพา Web3 สู่การใช้งานในวงกว้าง
แล้วเจ้า Aptos Blockchain มันน่าสนใจยังไง?? แอดได้สรุปไว้ให้แล้ว

Aptos ถูกระดมทุนมากถึง 350ล้านดอล! เลยทีเดียว
โดยในรอบ Seed ระดมทุนได้ 200 ล้านดอล จาก Andreessen Horowitz และกองทุนอื่นๆ อย่าง Tiger Global และ Multicoin Capital
และ รอบ Series A ระดมทุนได้ 150 ล้านดอล จาก FTX Ventures, Jump Crypto และ ผู้ร่วมลงทุน อย่าง Apollo, Circle Ventures, และ Franklin Templeton

Aptos Blockchain คืออะไร?
Aptos เป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่พัฒนาโดยอดีตทีมงานของ Meta (Facebook) ที่เคยทำโครงการ Diem มาก่อน โดยใช้ Move เป็นภาษาสำหรับการพัฒนา Smart Contract ที่ถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงและมี Efficiency ดีกว่า Solidity ของ Ethereum
น้องถูกออกแบบมาให้ เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และรองรับการใช้งานในวงกว้าง เพื่อทำให้ Web3 เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้นและแก้ปัญหาหลักๆของบล็อกเชนแบบเดิม
แล้วปัญหาของ Blockchain ในปัจจุบันคืออะไรล่ะ?
ถึงบล็อกเชนจะมี Potential สูง แต่การใช้งาน Web3 ยังไม่ได้รับความนิยมในมากเท่ากับ Web2 เพราะ บล็อกเชนปัจจุบันยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง
- ความเสถียรต่ำ – ระบบยังมีปัญหาล่มหรือทำงานผิดพลาดบ่อย
- ค่าธรรมเนียมสูง – ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมมักจะแพงเมื่อเครือข่ายมีการใช้งานสูง
- ความเร็วจำกัด – รองรับธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ได้น้อยเมื่อเทียบกับระบบ Web2
- ความปลอดภัย – เสียสินทรัพย์ดิจิทัลจากการถูกแฮ็กหรือช่องโหว่ใน Smart Contract
- ไม่รองรับการทำงานแบบเรียลไทม์ – ระบบยังไม่ Flow เท่ากับระบบคลาวด์ใน Web2

ทำไม Aptos ถึงน่าสนใจ?
1.ใช้ภาษา Move ที่เร็วและปลอดภัยกว่าเดิม
- Aptos พัฒนาขึ้นมาพร้อมกับ Move ที่เป็นภาษาสำหรับเขียน Smart Contract ที่มีความปลอดภัยสูง
- มี Move Prover ช่วยตรวจสอบโค้ดให้แน่ใจว่าไม่มีช่องโหว่หรืออะไรผิดปกติ
- นักพัฒนาจึงมั่นใจได้ว่าแอปพลิเคชันของพวกเขาจะปลอดภัยและทนทานต่อการโจมตีมากขึ้น
2.รองรับระบบการจัดการคีย์และ ดูแลสินทรัพย์แบบ Flexible
- ระบบของ Aptos ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ การเก็บรักษาสินทรัพย์ได้หลากหลายวิธี (ทั้งแบบ Manual และ Semi-supervised โดยบุคคลที่สาม)
- ทำให้ผู้ใช้เห็นรายละเอียดธุรกรรมก่อนเซ็นชื่อ เพื่อความปลอดภัย
3.ประมวลผลธุรกรรมได้เร็วและต้นทุนต่ำ โดยใช้วิธี pipelined และ modular processing แบ่งการทำงานออกเป็นหลายขั้นตอน
- การส่งต่อธุรกรรม
- การจัดลำดับข้อมูล
- การประมวลผลธุรกรรมแบบขนาน
- การจัดเก็บข้อมูลแบบกลุ่ม
- การตรวจสอบและรับรองธุรกรรม
- แต่ละส่วนทำงานคู่กัน จึงช่วยให้ใช้ทรัพยากรของระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
4.รองรับธุรกรรมที่ซับซ้อนแบบไม่ลดประสิทธิภาพ
- บล็อกเชนอื่น ที่ใช้การประมวลผลขนาน (parallel execution) จะข้อจำกัดที่ต้องกำหนดล่วงหน้าว่าธุรกรรมจะอ่านหรือเขียนข้อมูลอะไรบ้าง
- แต่ Aptos ไม่มีข้อกำหนดล่วงหน้า และสามารถรองรับธุรกรรมที่ซับซ้อนโดยยังคงความเร็วสูง
5.อัปเกรดระบบได้ง่ายและรวดเร็ว
- มี modular architecture ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถอัปเกรดบล็อกเชนได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดระบบ
- มีระบบ on-chain change management ที่ช่วยให้สามารถนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ได้รวดเร็ว
6.เตรียมพร้อมสำหรับการขยายตัวในอนาคต
- นอกจากจะเพิ่มความสามารถของโหนดตรวจสอบ (validators) แล้ว Aptos ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ อย่าง
- Sharding ภายในโหนด ช่วยให้แต่ละโหนดสามารถประมวลผลหลายส่วนของบล็อกเชนได้
- State Sharding ที่ช่วยให้ระบบขยายตัวได้โดยไม่ทำให้ผู้ดูแลโหนดต้องเจอกับความซับซ้อน

Highlights ที่ทำให้ Aptos ต่างจากบล็อกเชนอื่น
1.ความเร็วสูงมาก (High Throughput & Low Latency)
- Aptos สามารถทำธุรกรรมได้ มากกว่า 100,000 TPS (ธุรกรรมต่อวินาที)
- ใช้เทคนิค Parallel Execution (Block-STM) ทำให้ประมวลผลหลายธุรกรรมพร้อมกันได้ ไม่ต้องรอคิวแบบบล็อกเชนอื่น
2.ปลอดภัยและเสถียร (Security & Reliability)
- ใช้ Move Language ซึ่งออกแบบมาให้ปลอดภัยกว่าภาษา Solidity ที่ Ethereum ใช้
- มี Move Prover ที่ช่วยตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ใน Smart Contract
3.ค่าธรรมเนียมถูก (Low Fees)
- ค่า gas ในการทำธุรกรรมต่ำ และโปร่งใส ไม่ต้องเสียค่า gas แพงเหมือน Ethereum
4.รองรับการอัปเกรดได้ง่าย (Upgradeable & Modular Design)
- ออกแบบมาให้สามารถ อัปเกรด Protocol ใหม่ๆ ได้แบบไม่ต้องหยุดระบบ
- ทำให้บล็อกเชนพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ล้าหลังเหมือนบางแพลตฟอร์ม
5.รองรับการใช้งานที่หลากหลาย (Flexible & Scalable)
- ใช้งานได้ทั้ง DeFi, NFT, GameFi และ Web3 Apps
- รองรับนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการเข้าถึง Web3 แบบง่ายๆ

วิสัยทัศน์ของ Aptos
- Aptos มีเป้าหมายที่จะสร้างบล็อกเชนที่ช่วยให้ Web3 เข้าสู่การใช้งานของคนทั่วไป และเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้าง dApps ที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน Aptos เน้นการยกระดับความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของบล็อกเชน ด้วยการออกแบบเชน ที่มีความยืดหยุ่นและแบ่งส่วนได้ ทำให้สามารถอัปเกรดได้บ่อยและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว และรองรับการใช้งานในหลายๆ สถานการณ์
- เมื่อความต้องการของระบบเติบโตขึ้นทั่วโลก บล็อกเชนของเราก็จะขยายทรัพยากรทั้งใน Vertical และ horizontal ตามความต้องการนี้ และเมื่อมีการเกิดเทคโนโลยีหรือการใช้งานใหม่ๆ ระบบก็จะอัปเกรดอย่างราบรื่นโดยที่ไม่รบกวนผู้ใช้
- ในอนาคต ผู้ใช้และนักพัฒนาจะมีหลายตัวเลือกในการ Recovery Key, Data Design, Smart Contract, การจัดการทรัพยากร, Privacy และการรวมระบบเข้าด้วยกัน ผู้ใช้จะมั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ของตัวเองปลอดภัย เข้าถึงได้ตลอดเวลา และค่า gas ในการทำธุรกรรมต่ำ ทุกคนสามารถทำธุรกรรมอย่างปลอดภัยและโปร่งใสกับคนอื่นได้ เหมือนกับการใช้งานคลาวด์
- Aptos ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีทั้งหมดให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งมีการอัปเกรดที่ปลอดภัย โปร่งใส และทำได้บ่อยๆ เป็นฟีเจอร์หลักของระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมวลผลธุรกรรม และแนวทางใหม่ๆ ในการกระจายศูนย์และการบริหารเครือข่าย
ด้วยวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย Aptos ตั้งใจจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำ Web3 สู่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
ปล. เป็นเพียงการให้ข้อมูลเพื่อการศึกษาวิธีการใช้งาน และไม่ได้มีเจตนา เชิญชวนลงทุน หรือเชิญชวนให้เข้ามาร่วมกิจกรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก Aptos Blockchain เพื่อนๆสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้เลยย
Twitter : x.com/Aptos
Website : aptosfoundation.org/
Leave feedback about this