Metaverse คืออะไร
Metaverse คือ การสร้างสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จนกลายเป็น “ชุมชนโลกเสมือนจริง” ที่สามารถผสานวัตถุรอบตัวและสภาพแวดล้อมให้เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว โดยอาศัยเทคโนโลยี AR และ VR เข้ามาช่วยเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อให้กลายเป็นพื้นที่โลกเดียวกัน
- AR หรือ Augmented Reality คือ การนำเทคโนโลยีมาผสานโลกแห่งความจริงและวัตถุต่างๆ เข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น การสร้างตัวละคร Avatar ผ่านสมาร์ทโฟน, สร้างฟิลเตอร์กล้องถ่ายรูป, การเล่นเกม Pokémon GO, โฮโลแกรมภาพ 3 มิติ เป็นต้น
- VR หรือ Virtual Reality คือ การจำลองภาพให้เสมือนจริงแบบ 360 องศา โดยอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง แว่นตา VR เพื่อจำลองการรับรู้ การมองเห็น และการได้ยินเสียง ในโลกเสมือนจริง เช่น จำลองการกระโดดร่ม, การขับเครื่องบิน, การเล่นเกมแนวต่อสู้ เป็นต้น
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Metaverse ถือเป็นวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ต เพราะได้เปลี่ยนพื้นที่ออนไลน์แบบเดิมให้คนเข้ามาสังสรรค์ ทำงาน เล่นอวตาร หรือมีปฏิสัมพันธ์เหมือนจริงยิ่งขึ้น โดยพื้นที่ดังกล่าวยังคงอยู่ตลอดเวลา ไม่เสื่อมหายไปแม้ผู้ใช้งานจะเสร็จสิ้นกิจกรรมภายในพื้นที่แล้วก็ตาม
Metaverse มีประโยชน์อย่างไร
Metaverse จะเข้ามาช่วยในการปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตประจำวันและต่อยอดสิ่งที่มีอยู่
- ด้านการทำงาน ช่วยเรื่อง Work from home ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดยาวนาน เช่น Covid-19 ทำให้มีการย้ายพื้นที่ทำงานมาอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งอาจมีข้อจำกัดที่ทำได้ไม่เหมือนทำงานในออฟฟิศ ถึงอย่างนั้น หาก Metaverse เกิดขึ้นจริงในอนาคต หลายคนมีโอกาสทำงานจากที่ใดก็ได้ แต่ได้บรรยากาศเหมือนพบปะพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว ช่วยให้ได้ประสบการณ์ทำงานสมจริงและโปรดักทีฟกว่าเดิม
- ด้านการศึกษา นักเรียนนักศึกษาต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเช่นกัน ส่งผลให้ต้องเรียนออนไลน์เป็นหลักตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้เหนื่อยล้ากว่าปกติเมื่อต้องนั่งเรียนหน้าจอเป็นเวลานาน ในขณะที่ Metaverse ช่วยให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการเคลื่อนไหวและแสดงตัวตนในโลกดิจิทัลมากขึ้นผ่านตัว Avatar โดยไม่ต้องโฟกัสกับหน้าจอเท่านั้น แต่อาจเคลื่อนไหว Avatar ไปในสถานศึกษาที่ถูกออกแบบให้เป็นโลกเสมือนได้ ทำให้ไม่รู้สึกถูกกักอยู่ในพื้นที่จำกัดตลอดเวลา
- ด้านการแพทย์ Telemedicine กลายเป็นอีกประเด็นน่าสนใจทั้งในแวดวงการแพทย์และกลุ่มคนทั่วไป เมื่อทุกคนไม่ได้สะดวกเดินทางไปโรงพยาบาล อีกทั้งสถานรักษาพยาบาลก็รองรับคนจำนวนมากไม่ได้หลังเกิดการแพร่ระบาด การพบแพทย์และตรวจทางไกลจึงกลายเป็นคำตอบ ช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยติดต่อกันและวินิจฉัยปัญหาสุขภาพได้เหมือนไปตรวจที่โรงพยาบาล
- ด้านการท่องเที่ยว ผู้ใช้งานเดินทางทั่วโลกได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเดินทางไปสถานที่นั้นจริง ๆ อีกทั้งยังพาบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันให้เดินทางไปพร้อมกันได้ โดยจะใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่ประยุกต์ใช้ VR และ AR แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย แต่หลายคนคงได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเสมือนจริงผ่านการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลบ้างแล้ว เช่น วิดีโอคอนเทนต์ที่มาพร้อมฟังก์ชันภาพ 360 องศา เป็นต้น
- ด้านการพัฒนาเกม อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ผู้คนเล่นเกมเพื่อหาสังคมมากขึ้น ถือเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับนักพัฒนาเกม โดยต้องสร้างเกมที่รองรับกับเศรษฐกิจดิจิทัลและกระจายศูนย์ อีกทั้งต้องประยุกต์เรื่อง NFT และการสร้างตัวอวตารเข้ามา เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้งานเล่นเกมและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจภายในแพลตฟอร์มมากขึ้น
เทคโนโลยีที่จะเกี่ยวข้องกับ Metaverse มีอะไรบ้าง ?
- Assisted Reality เทคโนโลยีผู้ช่วยที่อำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถดูหน้าจอและโต้ตอบกับหน้าจอได้โดยไม่ต้องใช้มือ (hands-free)
- Augmented Reality (AR) เทคโนโลยีโลกเสมือนที่สามารถปรากฏอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
- Meatspace โลกที่เราใช้ชีวิตอยู่เป็นส่วนใหญ่
- Multiverse หรือ จักรวาลโลกคู่ขนาน ใช้เรียกแพลตฟอร์ม หรือ Community ในโลกดิจิทัลที่ทำงานอิสระจากกันและกัน ตัวอย่างที่เห็นกันได้ชัดก็จะมี Facebook, Minecraft, Instagram, Roblox, Fortnite, Discord เป็นต้น
- NFT หรือ Non-Fungible Tokens เป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่าใครก็ตามสามารถครอบครอง ซื้อ หรือ ขาย และสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ปรากฏอยู่ในโลกดิจิทัลเท่านั้น โดยมีเทคโนโลยี Blockchain คอยกำกับความเป็นเจ้าของและป้องกันการขโมย ตัวอย่างเช่น NFT ได้แก่ ผลงานศิลปะ บัตรกีฬา ของสะสม โดย NFT สามารถซื้อขายได้โดยสกุลเงินดิจิทัล ( Cryptocurrency )
- Virtual Reality (VR) หรือ ประสบการณ์เสมือนจริง เป็นการใช้อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้งานกับโลกดิจิทัล ตัวอย่างเช่น การที่ผู้คนในในนวนิยายเรื่อง Ready Player One ใช้ชุดแว่น Virtual Reality เพื่อเดินทางสู่โลกแห่งเกม
,Jo
ที่มา : techsauce,thairath,zipmex
Leave feedback about this