Blocksource ความรู้ทั่วไป

ไขข้อสงสัย Mining Reward, Transaction Fees และ Staking Reward

ความน่าหลงใหลของเทคโนโลยีบล็อคเชน มีคำศัพท์มากมายที่อาจไม่คุ้นเคยกับทุกคน โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่มักสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้คริปโตทั่วไป บทความนี้เจาะประเด็นที่มาของรางวัลการขุด , ค่าธรรมเนียมธุรกรรม และรางวัลการ Staking เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์ประกอบสำคัญในระบบธุรกรรมบล็อคเชนที่เห็นกันบ่อยๆ ให้กระจ่างและเข้าใจมันมากขึ้น

Mining reward พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

รางวัลการขุด เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่นักขุดบิทคอยน์ใฝ่ฝัน เป็นจำนวน Bitcoin ที่พวกเขาได้รับหลังจากตรวจสอบธุรกรรมล่าสุดในเครือข่าย Blockchain สำเร็จ แต่ละสกุลเงินดิจิทัลมีระบบรางวัลที่ไม่เหมือนกัน เต็มไปด้วยกลไกที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ย้อนกลับไปเมื่อเริ่มต้น Mining reward สำหรับการขุด Bitcoin อยู่ที่ 50 เหรียญ แต่เหมือนกับขุมทรัพย์ที่ค่อยๆ หมดลง รางวัลนี้จะถูก Halving หรือลดลงครึ่งหนึ่ง ทุกๆ 210,000 บล็อก เปรียบเสมือนด่านทดสอบความอดทนของนักขุด

ปลายทางของการขุดคือบล็อกที่ 6,929,999 ซึ่งรางวัลจะเหลือเพียง 0.00000001 เหรียญ เท่านั้น เปรียบเหมือนเศษเสี้ยวของขุมทรัพย์ในอดีต Bitcoin ทั้งหมดมีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ โดยระบบถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมอัตราการขุด ให้สร้างบล็อกใหม่ทุกๆ 10 นาที เปรียบเสมือนเขื่อนกั้นขุมทรัพย์ ป้องกันไม่ให้ถูกขุดจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันสั้น คาดการณ์ว่าจะใช้เวลาถึงปี 2140 ในการขุดบล็อกทั้งหมด

Transaction Fees เชื้อเพลิงสำหรับธุรกรรมที่รวดเร็ว

บนเครือข่ายบล็อกเชน ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมมีบทบาทสำคัญสองอย่างหลักๆ อย่างแรก ค่าธรรมเนียมเป็นเครื่องมือในการยับยั้งการทำธุรกรรมถี่ๆ เป็นจำนวนมาก หรือการ Spam transaction ทำให้การทำธุรกรรมวิธีการดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ยิ่งจ่ายค่าธรรมเนียมแพงมากเท่าไหร่ ธุรกรรมนั้นจะได้รับการประมวลผลเร็วขึ้น อย่างที่ที่สอง ค่าธรรมเนียมเป็นแรงจูงใจสำหรับ Validator โดยเป็นรางวัลให้กับคนที่ทำการตรวจสอบธุรกรรมและการมีส่วนร่วมกับเครือข่าย

Bitcoin เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแรกของโลกที่กำหนดมาตรฐานและแบบอย่างสำหรับการเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม แนวคิดนี้ถูกนำเสนอโดย Satoshi Nakamoto เพื่อป้องกันการโจมตีจากสแปมขนาดใหญ่ และเป็นกลไกในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับเครือข่าย

ค่าธรรมเนียม Bitcoin ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวน Bitcoin ที่ส่ง แต่ขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกรรม (นับเป็น Bytes) ตัวอย่างเช่น ธุรกรรมขนาด 400 Bytes กับค่าธรรมเนียม 80 Satoshis/bytes จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 32,000 satoshis (หรือ 0.00032 BTC) เพื่อเพิ่มโอกาสในการยืนยัน แต่ก็มีปัญหาหลักของค่าธรรมเนียม Bitcoin ที่เกิดจากความผันผวน ในช่วงเวลาที่มีจำนวนธุรกรรมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง

Staking reward สร้างรายได้ขณะที่ HODL เหรียญนั้นๆ

รางวัลการ Staking เปิดประสบการณ์ใหม่ของรายได้แบบพาสซีฟสำหรับผู้ใช้คริปโต ด้วยการล็อคสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาไว้ ผู้ใช้จะเข้าสู่โลกของ Proof of Stake (PoS) และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตและตรวจสอบบล็อกใหม่ เปรียบได้กับการแชร์พูลรางวัลคริปโตที่ผู้เข้าร่วมที่ Staking เยอะกว่าก็จะมีโอกาสสูงที่จะถูกเลือกเป็นผู้ตรวจสอบบล็อกคนต่อไป เครือข่ายบล็อคเชนที่แตกต่างกันมีวิธีการคำนวณรางวัลการ Staking ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและใช้เหรียญของตนเองแทนที่จะเพียงแค่ถือไว้อย่างเฉยๆ

Leave feedback about this

  • Quality
  • Price
  • Service

PROS

+
Add Field

CONS

+
Add Field
Choose Image