ข่าวเรื่องการล้มละลายของธนาคารใน Silicon Valley ดึงปริมาณการซื้อขาย NFT ลง 51%
- Blue-chip NFTs ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบ
Silicon Valley Bank (SVB) เป็นแกนหลักของสตาร์ทอัพและกองทุนร่วมทุนหลายแห่งทั่วโลก การล่มสลายของมันบ่งบอกถึงความล้มเหลวด้านการธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินในปี 2008 ในขณะที่ตลาด crypto ได้รับการงดเว้นจากผลกระทบเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่สามารถพูดได้เหมือนกันสำหรับพื้นที่ non-fungible token (NFT)
- NFT ท่ามกลางความโกลาหลของธนาคาร
อุตสาหกรรม NFT เป็นขาขึ้นที่มั่นคงเกือบตลอดปี 2023 และการยอมรับ NFT กระแสหลักก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การล่มสลายของ SVB และการ de-pegging ของหนึ่งในเหรียญ Stablecoins ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง USDC
ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ปริมาณการซื้อขาย NFT ลดลง 51% และยอดขายก็ลดลงเกือบ 16% ซึ่งทาง DappRadar กล่าวว่านักเทรด NFT เริ่มมีความกระตือรือร้นน้อยลง เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดตั้งคำถามถึงเสถียรภาพของ Stablecoins ซึ่งทำให้จำนวนผู้ขายในวันที่ 11 มีนาคม 2023 ได้รับการบันทึกว่ามี 12,000 รายการ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้เห็นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งมาพร้อมกับจำนวนการซื้อขายวันเดียวที่ต่ำที่สุดในปี 2023
แม้เทรดเดอร์ NFT จะมีความกระตือรือร้นน้อยลง แต่แพลตฟอร์มการรวมข้อมูลระบุว่าปริมาณไม่ได้รับผลกระทบ นี่อาจเป็นผลมาจากตลาด NFT Blur ซึ่งเอาชนะตลาด OpenSea ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของ NFT ในแง่ของปริมาณรายเดือนเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
- Blue-Chip NFT ไม่ได้รับผลกระทบ
NFT ระดับ top-tier ยังคงมีความยืดหยุ่นตลอด ราคา floor ของ Blue-Chip NFT รวมถึง Bored Ape Yacht Club (BAYC) และ CryptoPunks แทบไม่ได้รับผลกระทบ หลังจากที่มีการลดลงเล็กน้อยต่ำกว่า $100,000 ในวันที่ 11 มีนาคม ตัวเลขก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่คอลเลกชัน Blue-Chip อื่นๆ เช่น Azuki และ Art Blocks ก็ไม่ได้รับอันตรายเช่นกัน ในทางกลับกัน Moonbirds และ Proof ecosystem ได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากการเปิดเผยของธนาคาร Silicon Valley ซึ่งมีหลักฐานได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของลูกค้าหรือแผนงานของโครงการ
Moonbirds สูญเสียมูลค่าไป 18% ตั้งแต่มีข่าวออกมา ราคาพื้นได้ฟื้นตัวขึ้นแล้วโดยปีนขึ้นไปที่ $6,207
,Jo
Leave feedback about this